ระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งยศผู้สำเร็จการฝึกวิชาทหาร
ตามหลักสูตรของกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ.๒๕๒๔
และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๓๗
๑. ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น พันจ่าตรต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้
    ๑.๑ สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๓ และสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญา อนุปริญญา หรือ   ประกาศนียบัตรทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา
   ๑.๒ สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๔ และศึกษาในหลักสูตรเพื่อรับปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา แต่ไม่สำเร็จการศึกษาดังกล่าว

๒. ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น พันจ่าโท
    
ต้องสำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๔ และสำเร็จการศึกษาได้รับอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบเท่าอนุปริญญา

๓. ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น พันจ่าเอก ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้
    ๓.๑ สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๔ และสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญา หรือ ประกาศนียบัตร ทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบเท่าปริญญา
    ๓.๒ สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๕ และศึกษาในหลักสูตรเพื่อรับปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา แต่ไม่สำเร็จการศึกษาดังกล่าว

๔. ผู้ ที่จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น ว่าที่เรือตรี
    
ต้องสำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๕ และสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางด้านวิชาชีพ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่า อนุปริญญา และได้รับการฝึกอบรมตามระเบียบการแต่งตั้งยศของเหล่าทัพแล้ว

๕. หลักฐานประกอบการขอแต่งตั้งยศ (สำเนา ๑ ชุด) ดังนี้
    ๕.๑ หนังสือแสดงคุณวุฒิการศึกษา
    ๕.๒ หนังสือสำคัญแสดงวิทยฐานะว่าสำเร็จการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๓, ๔ หรือ ๕
    ๕.๓ ทะเบียนบ้าน พร้อมของบิดา , มารดา
    ๕.๔ หนังสือสำคัญ สมุดประจำตัวทหารกองหนุน ประเภทที่ ๑ (แบบ สด.๘)     ๕.๕ คำสั่งแต่งตั้งยศชั้นปีที่ ๓ (เฉพาะ นศท.ที่ขึ้นทะเบียนกับ ทบ.)
    ๕.๖ หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว/ชื่อสกุล (ถ้ามี)
    ๕.๗ บัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนา คำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน (แบบ บป.๑) หรือสูติบัตร กรณีบิดา หรือมารดา เป็นบุคคลต่างด้าว (ถ้ามี)

 

กลับหน้าหลัก