บำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉิน |
|
- นิยามศัพท์
- "ทหาร" หมายความว่า ข้าราชการทหาร และทหารกองประจำการ ตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521
- "เวลาเหตุฉุกเฉิน" หมายความว่า เวลาทำสงคราม เวลาทำการรบ เวลาทำการปราบปรามการจลาจล และเวลาปฏิบัติราชการลับ หรือปฏิบัติราชการพิเศษตามที่ กระทรวงกลาโหมกำหนด
- "การปะทะต่อสู้" หมายความว่า การต่อสู้ระยะประชิด หรือระยะที่อาจมองเห็นตัวบุคคล (เป็นระยะที่อันตราย)
- "การสู้รบ" หมายความว่า การสู้รบที่มีฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการต่อสู่ในลักษณะระยะที่ห่างกัน ส่วนมากจะเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปืนใหญ่ หรืออาวุธจากอากาศยาน
- "การกระทำของศัตรู" หมายความว่า ศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามมิได้อยู่บริเวณนั้น แต่ได้กระทำการบางอย่างไว้ เช่นวางระเบิด หรือฝังทุ่นระเบิด เพื่อทำให้ทหารที่ปฏิบัติราชการได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
- "การสู้รบทางเรือ" หมายความว่า ทำการต่อสู้โดยใช้อาวุธประจำเรือ ปืนฝั่ง หรือปืนที่ติดตั้งบนเกาะยิงต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามระหว่างเรือต่อเรือ ระหว่างเรือต่อบก หรือหมู่ปืนฝั่งหรือเกาะต่อเรือ
- อัตราที่จะได้รับบำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉิน
- เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการต่อสู้ พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 9 ชั้น(สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า น.1 ชั้น 1 ก็ให้ได้รับ น.1 ชั้น 1 และให้แต่งตั้งยศเป็น ร.ต.)
- เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการกระทำของฝ่ายตรงข้าม หรือกระทำการบนอากาศ ใต้น้ำ หรือเกี่ยวกับวัตถุระเบิด หรือเกี่ยวกับแก๊สพิษพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 7 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 7 ก็ให้ได้รับป.1 ชั้น 7 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.อ.)
- เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ นอกจากกรณี 3.1 และ 3.2 (อุบัติเหตุ) พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 5 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 5 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 5 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.อ.)
- ผู้ที่ได้ทำการสู้รบหรือต่อสู้ จนได้รับอันตราย (ไม่เสียชีวิตหรือพิการทุพพลภาพ) หรือปฏิบัติหน้าที่ในเวลาเหตุฉุกเฉินด้วยความตรากตรำเหน็ดเหนื่อย และได้ผลสมความมุ่งหมายของทางราชการเป็นอย่างดี ให้พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน ๔ ชั้น จำนวนเงินดังกล่าวให้นับเป็นเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนเรียกว่า"เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ" (พ.ส.ร.) สำหรับข้าราชการทหาร หรือ "เงินรางวัลสำหรับการสู้รบ" สำหรับทหารกองประจำการ ส่วนการพิจารณาและสั่งการให้ได้รับ พ.ส.ร.หรือเงินรางวัลสำหรับการสู้รบ ให้ปฏิบัติตามผนวกท้ายข้อบังคับ
- ผู้ที่ปฏิบัติราชการในเวลาเหตุฉุกเฉินจนป่วยเจ็บถึงเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ โดยมิได้ทำการต่อสู้หรือการกระทำของฝ่ายตรงข้าม พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 3 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 3 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 3 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.ท.)
- ผู้ที่ทำการต่อสู้หรือปฏิบัติราชการในเวลาเหตุฉุกเฉินจนถึงเสียชีวิต ไม่ว่า กรณีใด ๆ ถ้าผู้นั้นปฏิบัติราชการมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ในรอบปีงบประมาณที่เสียชีวิต หรือเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติภารกิจทางอากาศในย่านอันตรายมาไม่น้อยกว่าเที่ยวบินที่กำหนด ให้เพิ่มบำเหน็จพิเศษอีก 1 ชั้น
- หากมิได้กำหนดให้แต่งตั้งยศหรือเลื่อนยศให้ขอเลื่อนยศชั้นนั้นให้ด้วย ถ้าเงินเดือนเข้าขั้นหลายชั้นยศให้ขอเลื่อนยศชั้นสูง
- การขอรับสิทธิให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยที่ปฏิบัติงาน ดำเนินการตามสายงาน เสนอ ทร.(ผ่าน กพ.ทร.) เพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จพิเศษ พิจารณา
- หลักฐานประกอบการขอรับบำเหน็จพิเศษ
- คำสั่งการปฏิบัติหน้าที่ (ในเวลาเหตุฉุกเฉิน)
- บัญชีข้าราชการซึ่งสมควรได้รับบำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉิน
- คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการที่หน่วยแต่งตั้งขึ้น เป็นผู้สอบสวนการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพของผู้ไปปฏิบัติราชการ
- ผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ฯ
- บันทึกคำให้การของผู้เกี่ยวข้อง จำนวนไม่น้อยกว่า 3 นาย
- รายงานการสูญเสีย (กพ.3)
- รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของ จนท.ตำรวจ
- รายงานการสอบสวนของตำรวจถึงการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ หรือสำเนาคำพิพากษาแล้วแต่กรณี
- สำเนาคำสั่งเลื่อนชั้นเงินเดือน
- แผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ
- กรณีเสียชีวิต รายงานการชันสูตรพลิกศพ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
- ใบมรณะบัตร (สาเหตุการเสียชีวิต)
- คำสั่งย่อยของหน่วยที่สั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่
- ภาพถ่ายผู้ป่วยเจ็บขณะรักษาพยาบาล ภาพสถานที่เกิดเหตุ
- เอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาของคณะกรรมการ
|
บำเหน็จพิเศษในเวลาปกติ |
|
- นิยามศัพท์
- "ทหาร" หมายความว่า ข้าราชการทหารและทหารกองประจำการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521
- "สภาพที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต" หมายความว่า กระทำการบนอากาศ ใต้น้ำ หรือ กระทำการเกี่ยวกับวัตถุระเบิด หรือเกี่ยวกับแก๊สพิษ หรือรังสีที่เป็นอันตรายแก่ร่างกาย"
- อัตราที่จะได้รับบำเหน็จพิเศษในเวลาปกติ
- เสียชีวิต หรือพิการ ในสภาพที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 7 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 7 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 7 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.อ.)
- เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ โดยการกระทำของผู้กระทำความผิด พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 6 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 6 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 6 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.อ.)
- เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ โดยถูกประทุษร้าย พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 5 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 5 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 5 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.อ.)
- เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ โดยอุบัติเหตุ พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 3 ชั้น(สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 3 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 3 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.ท.)
- เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ เพราะปฏิบัติราชการตรากตรำเร่งรัด หรือ เคร่งเครียดเกินกว่าปกติธรรมดา พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนไม่เกิน 2 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 2 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 2 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.ท.)
- เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ เนื่องจากต้องไปปฏิบัติราชการเป็นครั้งคราวนอกที่ตั้งสำนักงานประจำ หรือต้องประจำปฏิบัติราชการ ในท้องที่ทุรกันดาร ที่เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 1 ชั้น (สำหรับทหารกองประจำการได้เลื่อนชั้นเงินเดือนแล้ว หากยังได้รับเงินเดือนต่ำกว่า ป.1 ชั้น 1 ก็ให้ได้รับเงินเดือน ป.1 ชั้น 1 และให้แต่งตั้งยศเป็น จ.ต.)
- หากมิได้กำหนดให้แต่งตั้งยศหรือเลื่อนยศ ให้ขอเลื่อนยศชั้นนั้นให้ด้วย ถ้าเงินเดือนเข้าขั้นหลายชั้นยศ ให้ขอเลื่อนยศชั้นสูง
- การขอรับสิทธิเช่นเดียวกับบำเหน็จพิเศษในเวลาเหตุฉุกเฉิน
- หลักฐานประกอบการขอรับบำเหน็จพิเศษในเวลาปกติ
- คำสั่งของหน่วยให้ออกปฏิบัติราชการในเวลาปกติ
- คณะกรรมการที่หน่วยแต่งตั้งขึ้น เป็นผู้สอบสวนการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพของผู้ไปปฏิบัติราชการ
- ผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ฯ
- บันทึกคำให้การของผู้เกี่ยวข้อง จำนวนไม่น้อยกว่า 3 นาย
- รายงานการสอบสวนของตำรวจถึงการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ว่าเป็นความผิดของตนเองหรือผู้อื่น
- แผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ
- กรณีเสียชีวิต รายงานการชันสูตรพลิกศพ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
- ใบมรณะบัตร (สาเหตุการเสียชีวิต)
- คำสั่งย่อยของหน่วยที่สั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่
- เอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาของคณะกรรมการ
|